ผู้นำ 4 ด้านในการบริหารงานและบริหารคน
การเป็นผู้นำที่ดี หรือ เรียกว่า “ผู้นำที่มีภาวะผู้นำนั้น” ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากครับ
เพราะการก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ผู้นำนั้น มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่รออยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการงาน
ให้ได้ตามนโยบายและเป้าหมายที่ผู้บริหารมอบหมายมา และสิ่งที่ท้าทายสุด ๆ คือ การบริหารคนที่มีความคิดแตกต่าง
หลากหลายมุมมองให้เราต้องมีเรื่องปวดหัวในทุก ๆ วันครับ จากประสบการณ์ในการทำงานด้านคนกว่า 11 ปี
ผมพบว่าการบริหารคนให้สามารถทำงานได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่คนของผู้นำ การปฏิบัติตัวของผู้นำ
ที่มีต่อลูกน้องว่าอยู่ในทิศทางไหน บวก หรือ ลบ เพราะว่าเราเปลี่ยนความคิดคนอื่น ๆ ไม่ได้ครับ แต่เราสามารถดูแล
ความคิดของแต่ละคน และนำมาเป็นคลังข้อมูลในการพัฒนางานและปรับปรุงงานได้อีกมากมาย แค่เราใช้ใจในการ
บริหารจัดการคน โดยการเปิดใจรับฟังลูกน้อง ให้อิสระกับลูกน้องในความคิด และเข้าใจสไตล์ของแต่ละคนเพื่อการบริหาร
และการมอบหมายงานให้เกิดแรงจูงใจในการทำงานอย่าลืมว่า ลูกน้องมองผู้นำอยู่ทุก ๆ วัน หากผู้นำเป็นตัวอย่างที่ดีทั้ง
เรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เมื่อถึงเวลาที่ต้องสื่อสารลงไป คำพูดนั้นย่อมศักดิ์สิทธิ์ครับ ทว่า หากตรงกันข้ามตัวใครตัวมัน 555
บทความวันนี้จะพาทุกท่านไปศึกษาหลักการบริหารงานและบริหารคน โดยใช้หลักการ DISC มาวิเคราะห์
เพื่อการบริหารงาน และ บริหารคนให้อยู่ในทิศทางเดียวกันครับ ตามมาอ่านกัน
จากตารางจะเห็นว่าพฤติกรรมของคนนั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม นั่นคือ
1.พฤติกรรมเชิงรุก
คนกลุ่มนี้จะเป็นคนทำงานค่อนข้างเร็ว มีความคิดก้าวไปข้างหน้า ตื่นตัว เน้นการลงมือทำเพื่อสร้างผลลัพธ
2.พฤติกรรมเชิงรับ
คนกลุ่มนี้จะเป็นคนทำงานค่อนข้างช้า มีกรอบทางความคิด ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน มีความละเอียดในการทำงานสูง
จากประสบการณ์ส่วนตัวผม ผมมองว่า พฤติกรรมทั้ง 2 กลุ่มนี้ไม่มีใครดีกว่ากันครับ แต่เราควรนำจุดแข็งของทั้งสองด้าน
นำมาปรับใช้ เพราะหากเราใช้เพียงด้านเดียว อาจทำให้เราเกิดความผิดพลาดได้
เช่น หากเราทำงานเร็วมากเกินไป แต่ขาดการคิดที่รอบคอบย่อมมีโอกาสผิดพลาดได้สูง
หรือ หากเราใส่ใจในความละเอียดมากเกินไป ก็อาจส่งงานไม่ทัน
ดังนั้น ความพอดี คือ “การทำงานให้เร็ว” และ “มีคุณภาพในงานนั้น ๆ”
เพราะเราต้องเน้นความเร็ว เพื่อการแข่งขันในเชิงเวลา และมีคุณภาพในการทำงานเพื่อให้สินค้าและบริการเป็นที่พึงพอใจต่อลูกค้าครับ
เมื่อเราแบ่งพฤติกรรม 2 กลุ่ม เชิงรุก และ เชิงรับ เรามาดูการโฟกัสอีก 2 กลุ่ม
จากภาพจะมีกลุ่มที่เน้นเรื่องงาน และ เน้นเรื่องคน/จิตใจ
1.เน้นเรื่องงาน คือ การใส่ใจที่ตัวเนื้องานหลักก่อนเรื่องส่วนตัว
2.เน้นเรื่องคน/จิตใจ คือ การใส่ใจที่ความรู้สึกของคนก่อนเรื่องงาน
ยกตัวอย่าง ถ้ามีเจ้านายมาถึงที่ทำงาน แต่มาถึงก็ถามถึงเรื่องงานก่อนเรื่องอื่น ๆ ให้คิดว่า เขาใส่ใจเนื้องานเป็นหลัก
แต่ หากเจ้านายมาถึงที่ทำงาน ได้มีการถามสารทุกข์สุกดิบ เน้นการพูดคุยทักทายมีความเป็นกันเอง ให้คิดว่า
เขาใส่ใจที่คนเป็นหลักครับ
จากภาพ คนฝั่งทำงานเชิงรุก จะเป็นกลุ่ม D (DOMINANCE) และ I (INFLUENCE)
คนทำงานเชิงรับ จะเป็นกลุ่ม S (STEADINESS) และ C (COMPLIANCE)
แต่หากดูการที่การโฟกัส กลุ่ม D (DOMINANCE) และ C (COMPLIANCE) จะโฟกัสที่งานเป็นหลักทั้งคู่
ส่วน I (INFLUENCE) และ S (STEADINESS) จะเน้นการโฟกัสที่คน/จิตใจ คนทั้งคู่
การเป็นผู้นำ ควรโฟกัสทั้ง 4 ด้านเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ครับ
เพราะหากเราโฟกัสเพียงด้านงานเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่สามารถบริหารจัดการคนให้ทำงานด้วยกันได้
เพราะขึ้นชื่อว่า คน ย่อมต้องการการดูแลเอาใจ่ใส่ มากกว่าแค่เรื่องงานเท่านั้น
หรือหากเราใส่ใจคนมากเกินไป ใจดีมากเกินไป ก็อาจทำให้งานไม่เสร็จเพราะไม่กล้าตักเตือนลูกน้องก็เป็นได้ครับ
ดังนั้นเรามาวิเคราะห์ 4 ด้านกันครับว่าเราจะสามารถนำจุดไหนมาทำงานและบริหารคนให้เดินไปข้างหน้าร่วมกัน
D (DOMINANCE)
คนกลุ่มนี้เน้นความเร็วในการทำงาน และโฟกัสที่งานเป็นหลัก ผู้นำควรมีข้อนี้ให้มาก ๆ ครับ เพราะเมื่อเรารับ
ตำแหน่งเป็นผู้นำ ผู้บริหารย่อมมีความคาดหวังว่าเราจะทำงานไปถึงเป้าหมายได้ ดังนั้นเมื่ออยู่ในเวลางาน
ผู้นำควรมีความคิดเรื่องงานที่ชัดเจน คิดถึงผลลัพธ์ในการทำงานเพื่อทำให้งานเกิดเป็นรูปธรรมให้มากขึ้น
คำนึงถึงเวลาในการทำงานเพื่อการส่งมอบหมายงานให้รวดเร็วแต่เด็ดขาดในการตัดสินใจ ทั้งปัญหาในการทำงาน
และปัญหาของคนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการทำงานภายในองค์กร
เน้นการทำงานให้เสร็จทันเวลา
I (INFLUENCE)
คนกลุ่มนี้เน้นความเป็นมนุษย์มากขึ้น ซึ่งมีความเป็นกันเอง ยืดหยุ่น ไม่ถือตัว มีรอยยิ้มเพื่อดึงดูดให้ลูกน้องกล้าเข้าหา
มากกว่าถอยหนี มีความเป็นประชาธิปไตยชอบทำงานแบบทีม มากกว่าชี้นิ้วสั่งงาน ซึ่งผู้นำที่ดีควรกล้าเปิดใจ
ให้อิสระในการทำงานต่อลูกน้อง พร้อมแชร์ไอเดียซึ่งกันและกัน และมีการช่วยเหลือลูกน้องหากลูกน้องทำงานผิดพลาด
รวมถึงเขาจะรู้ว่า ถ้าลูกน้องเกิดปัญหาเขาจะพร้อมอยู่เคียงข้าง หรือหากลูกน้องทำงานได้ดี เขาจะมีจิตวิทยาในการ
กระตุ้นคนเพื่อให้เกิดไฟในการทำงานตลอดเวลาผ่านการสื่อสารด้วยคำพูดเชิงบวกเพื่อให้คนทำงานมีพลังในการทำงาน
เน้นการสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดีและกระตุ้นความคิดให้กล้าแสดงออก
S (STEADINESS)
คนกลุ่มนี้เน้นการทำงานที่รอบคอบมากขึ้น แต่ยังมีความเป็นมนุษย์ที่สูง แต่ไม่ใช่คนที่กล้าลงมือทำมาก
ซึ่งต่างจากคนกลุ่ม I (INFLUENCE) ที่กล้าพูดมากกว่ารับฟัง แต่คนกลุ่มนี้พร้อมที่จะรับฟังทุก ๆ แนวคิดมากกว่าการพูด
เพราะไม่อยากให้ทุกคนทะเลาะกัน แต่อยากให้ทำงานด้วยความราบรื่น ดังนั้นทุกคำพูดเขาจะกลั่นกรองออกมาด้วย
ถ้อยคำที่สุภาพ ซึ่งผู้นำกลุ่มนี้จะเป็นคนที่มีความอดทนสูง มีน้ำใจ ใจดี ชอบช่วยเหลือลูกน้อง ทำให้ลูกน้องไม่กดดันในการ
ทำงานเพราะไม่เร่งรีบกับการทำงานที่มากเกินไป มีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ ซึ่งบางครั้งการทำงานต้องมีความเห็นอกเห็นใจ
ลูกน้องบ้างในบางครั้งเพื่อการทำงานที่ราบรื่นและบรรยากาศที่ดีในการทำงาน
เน้นการทำงานที่พร้อมรับฟังแนวคิดและความรู้สึกเวลาลูกน้องมีปัญหา
C (COMPLIANCE)
คนกลุ่มนี้เน้นการทำงานที่ค่อนข้างละเอียดสูงมาก ๆ มีมาตรฐานในการทำงานที่ชัดเจน มีแบบแผนในการทำงานทุก ๆ
เรื่อง เน้นการทำงานเป็นหลัก แต่ต่างกับ D (DOMINANCE)ที่ทำงานค่อนข้างเร็ว สั้น กระชับ
แต่กลุ่ม C (COMPLIANCE)จะเน้นเนื้องานที่มีความละเอียด มีเหตุผล มีหลักฐานในการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนตัดสินใจ
ลงมือทำ ซึ่งผู้นำต้องหมั่นตรวจสอบการทำงานเพื่อความละเอียด เพราะหากเราทำงานลวกย่อมทำให้เกิดความผิดพลาด
และบางครั้งต้องเสียเวลาในการแก้ไขงาน แต่หากเราทำงานด้วยการวางแผนให้รอบคอบ ทำงานเป็นขั้นตอนเดินตาม
ระบบย่อมทำให้งานออกมามีมาตรฐานได้ครับ
เน้นการวางแผนและทำงานตามระบบเพื่อมาตรฐานในการทำงานที่ดี
สรุป ผู้นำ 4 ด้านในการบริหารงานและบริหารคน
1.ด้านการทำงาน เน้นความรวดเร็ว กล้าตัดสินใจในการทำงานเชิงเป้าหมาย D (DOMINANCE)
แต่มีความละเอียดรอบคอบในการคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน C (COMPLIANCE)
2.ด้านคน กล้าสื่อสาร กล้าพูดคุย มีความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว เน้นการสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดี
มีความเป็นประชาธิปไตยในการทำงานพร้อมให้ทุกคนมีส่วนร่วมในงานที่ทำ I (INFLUENCE)
แต่พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากลูกน้องในการทำงาน มีความอดทน คิดก่อนพูด
และสร้างบรรยากาศให้เกิดการรัก สามัคคี อ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ลดความขัดแย้งทางความคิดในการทำงาน S (STEADINESS)
ดีที่สุด คือ การเดินทางสายกลางครับ แค่เข้าใจหลักคิดและปรับตัวให้เหมาะสมกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากับสถานการณ์ที่เจอ
ในปัจจุบัน ทุกอย่างย่อมราบรื่นแน่นอนครับ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ มีคำถาม หรือ อยากให้ผมเข้าไปพัฒนาความคิด
ในเชิงพฤติกรรมคน ติดต่อ 0836224415 ยินดีบรรยายและให้คำปรึกษาทั่วไทยครับ
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน