สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ชาว HR ทุกท่าน ใกล้วันที่เราจะได้พักผ่อนในวันหยุดสงกรานต์กันยาว ๆ

บางท่านก็หยุด 4 วัน บางท่านก็หยุดเกือบ ๆ 1 สัปดาห์ หวังว่าคงมีความสุขและได้ชาร์ทแบตให้ตนเอง

ในการทำงานต่อไปนะครับ ซึ่งในบทความฉบับนี้ ผมขอมอบแนวคิดดี ๆ กำลังใจดี ๆ

ให้ผู้อ่านนำไปปรับใช้กับงานและชีวิตของตนเองนะครับ  

“ผมมีความเชื่อเสมอว่า วิธีคิดย่อมสำคัญกว่าวิธีการ”

โดยผ่านข้อคิดของหนังดังต่าง ๆ 3 เรื่องที่ผมรวบรวมมาให้ผู้อ่านทุกท่านผ่านมุมมองของผมเองที่ใช้ในการทำงานมาตลอด 10 ปี

ถ้าพร้อมแล้วเรามาช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ กันครับ เริ่มจากหนังที่ผมชอบในวัยเด็กนั่นคือ  Harry Potter

1.จงจำไว้ว่า อย่ามัวแต่จมอยู่ในความฝันและลืมที่จะใช้ชีวิต (อัลบัส ดัมเบิลดอร์)

Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ ภาค 1)

ความฝันนับว่าเป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดที่ทำให้เรากล้าทำสิ่งต่าง ๆ เพราะหากไร้ซึ่งความฝันเราคงไม่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ

ในการขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้ก้าวไปอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็มีอีกหลาย ๆ คนที่มีความฝัน แต่ปราศจากการลงมือทำ

เพราะกลัวการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ และกลัวทำผิดพลาดเหมือนในอดีต

ทำให้ความฝันนั้นไม่สามารถกลายเป็นความเป็นจริงได้ น่าเสียดายครับ !!

ตัวผมเองก็มีความฝันหลาย ๆ อย่าง และฝันของผมก็มักกลายเป็นความจริง

ซึ่งคำว่าจริง ย่อมมีทั้งสำเร็จ และ ผิดพลาด โดยเฉพาะความผิดพลาด ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวหรอกครับ

หากความผิดพลาดทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิต ได้เห็นของจริง มากกว่าคิดหรือฝันไปวัน ๆ เชื่อผมเถอะ ++

เมื่อกล้าฝันแล้วนั้น จงกล้าลงมือทำด้วยครับ แล้วเราจะได้ใช้ชีวิตเหมือนอย่างที่เรานั้นฝันไว้ครับ

2.ถ้าคุณต้องการรู้ว่าคนคนหนึ่งเป็นคนอย่างไร คุณควรจะดูวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่มีฐานะต่ำกว่าเขา

ไม่ใช่คนที่มีฐานะเท่าเทียมเขา (ซิเรียส แบล็ก)

Harry Potter and the Goblet of Fire (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ภาค 4)

มีคำกล่าวไว้ว่า 100 คำพูดไม่เท่ากับ 1 การกระทำ ซึ่งต่อให้เราพูดได้ดีแค่ไหน ทว่าเราปราศจากการทำให้เห็น

สิ่งที่พูดก็คงสูญเปล่ามาก ๆ ครับ ดังนั้น การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูดเสมอ

แต่ก็ไม่ใช่ทำโดยปราศจากการสื่อสารที่ดี เพราะย่อมทำให้คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เราทำได้

ซึ่ง คำพูด + การกระทำในด้านบวก ย่อมสะท้อนมุมมองให้คนอื่นรับรู้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

โดยเฉพาะการกระทำต่อคนรอบตัวที่เราต้องร่วมงานกัน

คนบางคนยึดมั่นตัวเองเป็นหลัก ไม่สนใจคนอื่น ไม่รับฟัง ไม่รับรู้ ต่อคนที่มีสถานะตำแหน่งต่ำกว่าตนเอง

แบบนี้ย่อมทำให้การทำงานล่าช้า เพราะบางครั้งคนที่มีตำแหน่งต่ำว่า อาจมีมุมมอง ความคิดดี ๆ นำมาให้เรา

ซึ่งน่าเสียดายแทนครับ หากเราที่มีตำแหน่งสูงกว่าขาดการรับฟัง คิดว่าความคิดของตนเองดีที่สุด

ฉะนั้น หากเรากล้าเปิดใจ ยอมรับฟังความคิดจากคนอื่นบ้าง ก็คงจะดีกว่ามานั่งคิดอยู่คนเดียว เหนื่อยอยู่คนเดียว

เพราะต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ทำงานตัวคนเดียวไม่ได้ครับ คำนึงถึงการทำงานเป็นทีม ใจเขาใจเรา

รับฟังและกล้าตัดสินใจร่วมกัน แบบนี้ใคร ๆ ก็คงอยากทำงานร่วมด้วยตลอดไป ลองดูนะครับ

3.ความแตกต่างระหว่างนิสัยและภาษาจะไม่มีความหมายเลย

หากเรามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกันและเราต่างเปิดใจของเราให้กว้าง (อัลบัส ดัมเบิลดอร์)

Harry Potter and the Goblet of Fire (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ภาค 4)

การทำงานในปัจจุบันหลาย ๆ องค์กรย่อมมีคนต่างถิ่น ต่างภาษามาร่วมงานกันซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น คือ

การไม่เข้าใจในวัฒนธรรมของกันและกัน รวมถึง เรื่องของภาษาที่ต้องสื่อสารก็ยากหากเราพูดกันคนละภาษา

คนละความหมาย ซึ่งปัญหาการสื่อสารในองค์กรนับว่าเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ที่ก่อให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานร่วมกัน

และไม่ใช่ต่างภาษาที่จะเกิดปัญหาในการสื่อสารเท่านั้น  ภาษาเดียวกันก็เกิดปัญหาขึ้นบ่อย ๆ

ได้เช่นเดียวกัน เพราะทุกคนต่างมองตนเองมากกว่ามองประโยชน์ส่วนรวมของการทำงานร่วมกันในองค์กร

จนทำให้เกิดการทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน จนงานเดินไปอย่างล่าช้า ซึ่งการที่เรามีมุมมองที่แตกต่างกันนั้น

ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับ เพราะยิ่งต่างความคิด ยิ่งทำให้เรามีทางเลือกในการหยิบแนวคิดของแต่ละคนมาปรับใช้

ทว่า ทุกคนต้องกล้ายอมรับ และมีเหตุผลในการรับฟังความคิดของผู้อื่นหากความคิดนั้นดีกว่า

และสามารถแก้ไขปัญหาได้ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเรายอมรับฟังและสร้างจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ เป้าหมายในการทำงาน

การผลักดันงานไปด้วยกันด้วยแนวคิดในเชิงบวก ระหว่างทางหากทางเลือกแรกใช้ไม่ได้

ก็พร้อมยืดหยุ่นปรับทางเลือกให้สมดุลและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ทั้งผู้นำ และ ผู้ตาม

โดยไม่มีการโทษว่าใครเป็นคนผิดแบบนี้การทำงานย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

ข้ามาคนเดียว จริงไหมครับ !!

4.ความขยันเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่มีบางอย่างที่สำคัญมากกว่านั่นคือ การเชื่อมั่นในตัวเอง 

(แฮร์รี่ พรอตเตอร์)

Harry Potter and the Order of the Phoenix (แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ภาค 5)

ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า ความขยันเป็นที่มาของโชคลาภ ซึ่งโชคลาภในมุมมองผมนั้น ไม่ใช่เงินเสมอไป
เพราะสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงิน นั่นคือ ประสบการณ์

ที่เราสามารถนำไปต่อยอดเป็นความน่าเชื่อถือในระยะยาวได้และประสบการณ์จะเกิดขึ้นได้นั้น

เราต้องมีความเชื่อมั่นในการลงมือทำ ให้เกิดความเข้าใจจากสิ่งที่คิด

คิด + วางแผน คือ นามธรรม แต่ ลงมือทำ คือ รูปธรรมที่จับต้องได้เสมอ 

และยิ่งทำบ่อย ๆ เราย่อมเกิดทักษะติดตัว ทำให้เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น

กล้าตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที เพราะมีประสบการณ์จากการลองผิดลองถูกมาเยอะ (เจ็บมาเยอะ 555)

แต่ก็ต้องระมัดระวังความเชื่อมั่นของตนเองที่อาจมากเกินไปจนกลายเป็นอีโก้

คือ ความทะนงตนเองว่า เราเก่ง  จนทำให้เราขาดสติในการรับฟังผู้อื่นซึ่งอันตรายมาก ๆ ครับ

ทางที่ดี เดินทางสายกลางเข้าไว้ คือ มีความเชื่อมั่นไม่มากจนเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป

เพราะหากน้อยจนเกินไป เราก็คงไม่กล้าลงมือทำ เพราะมัวแต่กลัวตลอดเวลา โดยเฉพาะกลัวความผิดพลาด

เชื่อผมเถอะ ++ อย่ากลัวความผิดพลาด เพราะคนเราผิดพลาดได้ตลอดเวลาหากเป็นเรื่องที่เราไม่รู้

ขออย่างเดียว จงอย่าผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ แบบนี้เท่ากับเราไม่เรียนรู้อะไรเลย

ซึ่งทำให้เราขาดการพัฒนาตนเองและคงทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ไม่สุด เพราะเรามัวย่ำอยู่กับที่ครับ

5.ต้องให้เกิดเรื่องเสียก่อน คนเราถึงจะแสดงความใส่ใจ (Bruce Wayne)

Batman Begins (ภาพยนตร์ชุดแบทแมนลำดับที่ 5)

ต้องให้เกิดเรื่องเสียก่อน คนเราถึงจะแสดงความใส่ใจ คำถาม คือ ทำไมเราไม่รู้จักวางแผนตั้งแต่แรก ?

ทั้ง ๆ  ที่รู้ว่ามีโอกาสผิดพลาด หรือ ทำไม ไม่คิดแผนสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ หากเกิดความผิดพลาดในสิ่งที่ทำ

โดยเฉพาะเรื่องหนึ่งที่คนเราทุกคนควรคิด นั่นคือ การเก็บเงิน การออมเงิน และการลงทุน

อย่าปล่อยเวลาในปัจจุบันผ่านไปโดยไม่ใส่ใจครับ เพราะหากเรามีชีวิตอีกยาวไกล เราต้องใส่ใจ

และคิดเผื่อไว้ถึงวัยเกษียณ ที่ต้องเจ็บป่วย ต้องแก่ลง และเมื่อถึงวันนั้น รายได้ที่เคยมีย่อมลดลงไป

แต่รายจ่ายกับเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมใครเตรียมตัวดี วางแผนดี ก็ย่อมมีชีวิตที่สบาย

กลับกันคนที่ไม่คิด ไม่วางแผน ใช้ชีวิตไปวัน ๆไม่เคยมองอนาคต

ย่อมมีโอกาสที่จะลำบากจากค่าเงินที่นับวันจะยิ่งลดมูลค่าลงไปเรื่อย ๆ

การอยู่กับปัจจุบันเป็นสิ่งที่ดีครับและควรอยู่กับปัจจุบันมาก ๆ แต่ไม่ใช่การ คิด ครับ

การอยู่กับปัจจุบัน ควรเป็นการลงมือทำกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเราให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถเราจะไปถึง

ส่วนการคิด ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดคิดให้รอบด้าน คิดถึงอนาคตที่แม้ยังไม่ถึงในปัจจุบันแต่ยังไงสักวันก็ต้องถึง

ถ้าไม่ตายไปซะก่อน  เชื่อผมเถอะ ++

อย่าเสียใจถ้าทำวันนี้ดีที่สุดแล้วแต่จงเสียใจที่ปล่อยเวลาผ่านไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

6.ยาก ไม่ได้หมายความว่า เป็นไปไม่ได้ (Dastan)

Princ of Persia Tha Sands of Time (เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย มหาสงครามทะเลทรายแห่งกาลเวลา)

ในยุคปัจจุบันอะไรที่เราคิดว่า ทำได้ เราก็ทำได้ ส่วนอะไรที่คิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็ทำไม่ได้

เพราะความคิดย่อมสะท้อนถึงการกระทำที่เรากำลังจะทำ ยิ่งโลกในยุคนี้ทุกอย่างทุกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนที่หันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น

ดังจะเห็นว่าหลาย ๆ ธุรกิจเกิดขึ้นมามากมายโดยไม่จำเป็นต้องมีเงินถุงเงินถังเหมือนในอดีต

แต่สามารถใช้สื่อออนไลน์ที่ดีสร้างตัวตนจนเกิดธุรกิจทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาลุยธุรกิจของตนเอง

ยิ่งรัฐบาลส่งเสริมให้เราเข้าสู่สังคมดิจิตอล เป็นสังคมที่อนาคตเราจะโอนเงินผ่านระบบออนไลน์

จน ณ ปัจจุบันหลายๆ  ธนาคารก็มีการปรับตัวลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินข้ามธนาคาร จ่ายบิลฟรี เติมเงินมือถือฟรี ฯลฯ

สร้างฐานลูกค้าให้หันมาใช้ระบบออนไลน์ของธนาคารมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการธนาคารโดยสิ้นเชิง

ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนถึง การทำงานในยุคปัจจุบันที่ต้องมีการปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน

ใครที่ยังทำแบบเดิม ๆ ย่อมได้รับผลแบบเดิม ๆ ซึ่งความก้าวหน้าคงไม่ต้องถามถึง

คำถามคือ เก้าอี้ที่นั่งในปัจจุบันจะรักษาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งไหม แบบนี้น่าคิดกว่าครับ !!

ซึ่งการไม่ปรับตัว ไม่เรียนรู้ ไม่พัฒนา บอกเลยทุกอาชีพอยู่ยากครับ

ดังนั้น วันนี้คนทำงานทุกคนต้องกล้าคิดใหม่ โดยสิ่งที่ต้องเชื่อก่อนลงมือทำ คือ

เชื่อว่าฉันทำได้ ถึงแม้จะไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ ต้องสร้างความเชื่อโดยไม่สนใจผลลัพธ์ครับ

สร้างความเชื่อเพื่อ “ใส่ใจ”“ตั้งใจ”ในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ อะไรที่ไม่รู้ ก็หาความรู้

ซึ่งในยุคนี้ความรู้อยู่รอบตัว อยู่ที่ตัวเราครับ จะขวนขวายความรู้มากน้อยแค่ไหน

หาความรู้ได้เยอะ ก็ลดทอนความผิดพลาดได้มากโข ครับ

อย่าทำโดยปราศจากความรู้ ปราศจากการวางแผน กล้าประเมินตนเองครับ

อะไรที่เรายังทำได้ไม่ดี ก็พัฒนาตนเองซะ อะไรที่เราทำได้ดี ก็จงพัฒนาต่อไปหามุมมองใหม่ ๆ มาต่อยอด

อย่างน้อยพัฒนาตนเองให้ได้ทุกๆ  วัน วันละนิดวันน้อย ปีหนึ่งผ่านไปสิ่งที่เราพัฒนาก็มากขึ้นใหญ่ขึ้น

เชื่อผมเถอะ ++ ลองดูครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับมุมมองข้อคิด แรงบันดาลใจที่ผมตั้งใจนำมาเสริฟให้คุณผู้อ่าน

การดูหนังถึงแม้จะสร้างความบันเทิงให้เรา ณ ปัจจุบัน ทว่าหากตั้งใจดูแบบเชิงลึกเราจะรู้ว่าหนังแต่ละเรื่อง

ได้ซ่อนข้อคิด ซ่อนแรงบันดาลใจให้เรานำไปปรับใช้ หรือใช้มองตนเองเพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น

เหมือนที่ผมนำข้อคิดของหนัง ทั้ง 3 เรื่อง คือ

Harry Potter , Batman Begins , Princ of Persia Tha Sands of Time

ที่ผมชอบดูนำมาสร้างเป็นมุมมองให้คุณผู้อ่านนำไปใช้

อ่านแล้วอย่านั่งเฉยครับ คิด วางแผน ลงมือทำทำทันที คือ สิ่งที่เรามีโอกาสประสบความสำเร็จครับ

ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ

1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@ 

(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ

 2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish

ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ