4 วิธีคิดเพื่อพิชิตใจเจ้านาย
การทำงานในองค์กร เราเองคงไม่ปฏิเสธโอกาสที่พร้อมเติบโตและก้าวไปข้างหน้า
เพราะคงไม่มีผู้ใดที่อยากย่ำอยู่กับที่ทำงานตำแหน่งเดิม ๆ ไปตลอดชีวิต จริงไหมครับ !!
และสิ่งที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้นั้นผลงานต้องโดดเด่น จนเจ้านายไม่อาจปฏิเสธ
และพร้อมผลักดันให้ตัวเราก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่การได้มาซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น ย่
อมนำมาซึ่งภาระที่หนักหน่วง เพราะคงไม่มีใครที่มีตำแหน่งสูงขึ้น แต่ทำงานเท่าเดิมหรอกครับ
ยิ่งตำแหน่งมากเท่าไหร่ เงินเดือนมากเท่าไหร่ ความรับผิดชอบต้องเยอะอีกหลายเท่าตัวครับ
ซึ่งก่อนจะถึงในจุดนั้น เรามาเรียนรู้วิธีการทำงานที่ทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วกันดีกว่าครับ
เพราะการจะก้าวขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น เราต้องมีผลงานที่โดดเด่น และทำให้เจ้านายประทับใจให้ได้เสียก่อนครับ
ในบทความนี้ผมจะพาทุกท่านไปเรียนรู้เจ้านาย 4 แบบที่เราต้องเข้าใจและพร้อมปรับตัว ปรับความคิด
เพื่อพิชิตใจเจ้านายให้เขาประทับใจในผลงานที่ลงมือทำ ดังนี้
1.เจ้านายที่เน้นงานเป็นหลัก
เจ้านายประเภทนี้ต้องการให้ลูกน้องใส่ใจในงานที่ทำ และต้องทำงานให้เสร็จทันเวลาที่กำหนด
ถึงแม้บางครั้งงานที่ทำอาจเป็นจานด่วน ก็ต้องพยายามทำงานชิ้นนี้ให้สำเร็จให้จงได้ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
สั่งงานแล้วต้องรีบลงมือทำทันที กล้าตอบ กล้าพูดหากเจ้านายถาม คิดเร็ว ทำเร็ว ไม่อืดอาดชักช้า
และต้องเข้าใจความต้องการของเจ้านายที่เป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว ซึ่งเจ้านายประเภทนี้อยากเห็นลูกน้อง
เป็นเหมือนกับเขาในการโฟกัสและมุ่งมั่นในงานที่เจ้านายสั่งอีกทั้งเจ้านายประเภทนี้ยังชอบพูดในเชิงเป้าหมาย
ที่ทำให้การทำงานมีกรอบในการเดินที่ชัดเจน ทำให้งานไม่สะเปะสะปะจนงานหลุดไม่เป็นชิ้นดี
ข้อคิดในการทำงาน
หากเราเป็นลูกน้องที่เจอเจ้านายประเภทนี้ เราต้องเตรียมความพร้อม ตื่นตัวในการทำงานอยู่เสมอ
เพราะประโยชน์ที่เราจะได้จากเจ้านายประเภทนี้ คือ การฝึกตนเองให้เป็นคนที่คิดเร็ว ทำเร็ว กล้าพูด
กล้าตัดสินใจ และฝึกให้เราทำงานแบบมีเป้าหมาย เน้นผลลัพธ์ในเชิงรูปธรรมที่จับต้องได้ทำให้ในอนาคต
หากเราได้มีโอกาสเป็นเจ้านายบ้าง ย่อมเข้าใจการทำงานในภาพรวมที่ต้องตัดสินใจในทุก ๆ วันได้อย่างรวดเร็ว
2.เจ้านายประเภทงานละเอียด
เจ้านายประเภทนี้ ชอบคนที่ทำงานแบบมีขั้นตอน มีแบบแผนที่ชัดเจน มีความละเอียดในเนื้องาน มีเหตุและผล
มีที่มีที่ไปในการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ชอบข้อมูลที่มาจากประสบการณ์โดยไม่มีหลักฐาน
ในการยืนยัน ชอบงานที่ไม่ผิดพลาด หรือถ้าจะเกิดความผิดพลาดต้องน้อยที่สุด และเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
มากกว่ารู้ว่างานนี้ควรทำอย่างไร แต่ประมาทจนงานหลุดในที่สุด
ข้อคิดในการทำงาน
หากเราเป็นลูกน้องที่เจอเจ้านายประเภทนี้ สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการทำงาน คือ การพูดความจริง
พูดในเชิงเหตุและผล มีข้อมูลอ้างอิงในการนำเสนอก่อนที่จะเข้าไปขอความคิดเห็นจากเจ้านาย
การทำงานต้องละเอียด มีการตรวจสอบที่ดีทุกครั้งก่อนนำเสนอ มีความเรียบร้อยในเอกสารการทำงาน
มีระบบแบบแผน อยู่ในกฎระเบียบ ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากเกินไปจนผิดระเบียบ
ซึ่งหากเราเข้าใจและปรับตัวตามความคิดของเจ้านายประเภทนี้ได้ บอกเลยเราจะเป็นคนที่ทำงานรอบคอบ
คิดก่อนทำอยู่เสมอ เพราะหากเราได้มีโอกาสเติบโตในการทำงานที่ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น
การที่เป็นคนคิดก่อนทำ มีความรอบคอบย่อมไม่เกิดความผิดพลาดในการทำงานจนเสียเวลานั่งแก้ไขแน่นอนครับ
3.เจ้านายประเภทสนุกสนาน
เจ้านายประเภทนี้ ชอบคนที่ร่าเริง ไม่ซีเรียสในการทำงาน มีความคิดนอกกรอบอยู่เสมอ
ชอบคนที่ไม่ถือตัว พูดจาดี มีวาทศิลป์ในการสื่อสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทำงานแล้วต้องสนุก
บรรยากาศไม่ตึงเครียดจนคิดงานไม่ออก และต้องรู้จักสังสรรค์นอกเวลางานกับเจ้านายอยู่เสมอ
ข้อคิดในการทำงาน
หากเราเป็นลูกน้องที่เจอเจ้านายประเภทนี้ ต้องรู้จักสังเกตสิ่งที่เจ้านายชอบ เพื่อพูดชมเชยเจ้านาย
ไม่เชิงเป็นการประจบสอพลอ แต่เจ้านายประเภทนี้ค่อนข้างบ้ายอ และต้องกล้ารับฟังเจ้านายประเภทนี้อยู่เสมอ
เนื่องจากเจ้านายประเภทนี้มักชอบพูด บางครั้งชอบสอนข้อคิดดี ๆ และชอบการมีส่วนร่วมในการทำงาน
มากกว่าลุยเดี่ยวทำงานคนเดียว เนื่องจากเจ้านายประเภทนี้เน้นการทำงานแบบ Teamwork มาก ๆ
และชอบคนที่กล้านำเสนอไอเดียนอกกรอบเพื่อทำให้งานก้าวไปข้างหน้า ตื่นตัวในการทำงานอยู่เสมอ
ซึ่งหากเราได้มีโอกาสก้าวขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้น การเรียนรู้จากเจ้านายประเภทนี้ คือ การสื่อสารกับคนหมู่มาก
ด้วยถ้อยคำที่เป็นกันเอง มีวาทศิลป์ในการโน้มน้าวคนอื่นให้ทำงานร่วมกัน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
ในการทำงานกับคนที่ต้องเข้าใจผู้อื่น และใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างนอกเหนือจากตนเอง
4.เจ้านายประเภทอ่อนโยน
เจ้านายประเภทนี้ เป็นคนที่พูดน้อย แต่อ่อนโยน เป็นกันเอง และพร้อมช่วยเหลือเป็นที่พึ่งพาให้ลูกน้อง
ในยามที่ทุกข์ร้อน มีปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งพร้อมรับฟังลูกน้องคนนั้นทำให้ลูกน้องผ่อนคลาย
จากอารมณ์ตึงเครียดได้ค่อนข้างดี มีจิตใจเมตตา มีคุณธรรม ไม่ชอบการทะเลาะ ขัดแย้งกันในการทำงาน
เป็นคนที่ทำงานแบบมีขั้นตอน ทำงานแบบชิว ๆ ไม่เน้นกฎระเบียบที่ยุ่งยาก
ไม่ทำงานแบบจานด่วนจนขาดความรอบคอบ แต่มีหลักคิด คือ การทำงานแต่ละชิ้น
จะต้องสอบถามพูดคุยกับลูกน้องเพื่อรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องในการทำงานอยู่เสมอ
ซึ่งบอกเลยหากใครมีเจ้านายประเภทนี้ ย่อมทำงานแบบสบาย ๆ แน่นอนครับ
ข้อคิดในการทำงาน
หากเราเป็นลูกน้องที่เจอเจ้านายประเภทนี้ ต้องเข้าใจและใจเย็นในการให้เจ้านายประเภทนี้ตัดสินใจในเรื่องงาน
เพราะบางครั้งลูกน้องอยากได้มุมมองและแนวคิดของเจ้านายเพื่อการตัดสินใจในการประสานงานต่อ
ซึ่งบางครั้งต้องบอกว่า เจ้านายประเภทนี้ด้วยนิสัยเป็นคนที่พร้อมรับฟังคนอื่น ซึ่งการรับฟัง ทำให้มีข้อเสีย
คือ การพูดน้อย จนบางครั้งไม่กล้าตัดสินใจเนื่องจากกลัวการตัดสินใจมีผลกระทบต่อบุคคลอื่น
จนทำให้คนอื่นเดือนร้อน เพราะเจ้านายประเภทนี้ชอบให้ทุกคนรักใคร่กลมเกลียวมากกว่าขัดแย้งกันในองค์กร
ทว่า หากเราได้ขึ้นเป็นเจ้านายบ้างในอนาคต เราก็ควรมีการรับฟังผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นข้อที่ดีมาก ๆ ในการสื่อสารภายใน
เพราะการรับฟังคนอื่น คือ การใส่ใจความรู้สึกของผู้พูด ซึ่งหากเรามีตำแหน่งที่สูงขึ้น การรับฟังมากกว่าพูดย่อม
ทำให้เรามีข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ เพราะทุก ๆ ครั้งในการตัดสินใจย่อมต้องใส่ใจคนรอบข้าง
เพื่อรักษาน้ำใจในการทำงานกับคนหมู่มากต่อไป
ขึ้นชื่อว่าเจ้านายย่อมมีหลากหลายความคิด หลากหลายอารมณ์ คนที่เป็นลูกน้องต้องกล้าเปิดใจและปรับความคิด
ของตนเองเพื่อการทำงานอย่างมีความสุขและราบรื่น เพราะการทำให้เจ้านายคล้อยตามความคิดของเรานั้น
ย่อมเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย หากเราเจอเจ้านายที่เปิดใจไม่ปิดกั้นความคิดของลูกน้อง
แต่นั่น คือ การแทงหวยครับ ซึ่งการแทงหวยก็รู้ ๆ กันว่าโอกาสถูกเลขเด็ดย่อมมีเพียง 1% หรือน้อยกว่านั้น
ทางที่ดี เรากล้าแลกเปลี่ยนความคิดกับเจ้านายไม่ใช่เรื่องผิด และเป็นเรื่องที่มืออาชีพเขาทำกันครับ
เพียงแต่ต้องพร้อมยอมรับฟังความคิดของเจ้านายและทำในสิ่งที่เจ้านายบอกในการตัดสินใจครับ
แบบนี้ เรียกว่า มืออาชีพ ที่พร้อมปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี เพื่อทำให้เจ้านายยอมรับในสิ่งที่เราทำงาน
ดังนั้น หน้าที่ของการเป็นลูกน้องแบบมืออาชีพ คือ การทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้ดีที่สุด
หากสิ่งนั้นผิดพลาดที่เกิดจากการตัดสินใจของเจ้านาย เขาย่อมรับรู้และอาจเปิดใจรับฟังข้อมูลจากเรา
ซึ่งตอนนั้นเราต้องกล้าแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้เจ้านายคล้อยตามต่อไปครับ
สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากข้อคิดสำหรับคนที่เป็นลูกน้องว่า
การมองเจ้านาย ควรมองในจุดที่ดีของเขามากกว่าจุดที่เขาบกพร่องครับ
เพราะไม่มีใครบนโลกนี้ที่เกิดมาแล้วสมบูรณ์แบบมีแต่ข้อดี 100%
คนทุกคนย่อมมีจุดด่าง หรือข้อเสียที่ต้องเยียวยารักษากันต่อไป
ซึ่งหากเราเลือกสิ่งที่ดีของเจ้านายทั้ง 4 แบบมาใช้บอกได้เลย
เราจะเป็นสุดยอดเจ้านายที่ลูกน้องรักแน่นอน นั่นคือ
1.กล้าตัดสินใจ ทำงานบนพื้นฐานคือ การสร้างความสำเร็จที่จับต้องได้ เน้นลงมือทำให้เยอะ
2.มีความละเอียด คิด วางแผนให้รอบด้านก่อนการลงมือทำทุกครั้งและทำงานเป็นระบบ
3.มีทักษะในการสื่อสารประสานงานกับคนได้ดี ไม่พูดทำร้ายจิตใจคนอื่นและพร้อมทำงานเป็นทีม
4.พร้อมรับฟังความคิด ความรู้สึกจากคนอื่น ๆ เพื่อนำมา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ในการลงมือทำงานนั้น ๆ ต่อไป
เชื่อผมเถอะ ++
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน